วันพุธที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

พรรณไม้ที่ใช้ผลิตน้ำหอม


         น้ำหอมที่ได้มาแต่ละชนิดนั้นล้วนมาจากพืชที่ให้ความหอมที่แตกต่างกัน ดังนั้นวันนี้เรามารู้จักชนิดของต้นไม้ ที่คนปรุงน้ำหอมเขานำมาใช้ใน การทำนํ้าหอมกันว่ามีอะไรบ้างนะคะ โดยต้นไม้ที่นิยมนำมาใช้มากในอันดับต้นๆ นั้นมีดังนี้คือ



         Balsam : เป็นยางไม้หอมชนิดหนึ่ง ที่มีลักษณะคล้ายขี้ผึ้ง Balsam ที่นิยมในแวดวง การผลิตเครื่องหอม ในปัจจุบันเป็นอันดับต้นๆ ก็คือ Balsam จากประเทศ เปรู



         Bergamot : ก็คือ ต้นมะกรูดนั่นเอง ส่วนของมะกรูดที่ใช้สกัดทำน้ำหอมก็คือ บริเวณเปลือก ของลูกมะกรูดนั่นเอง กลิ่นหอมที่สกัดจากผิวของลูกมะกรูดนี้ส่วนใหญ่ จะนำไปใช้ในน้ำหอมสำหรับผู้หญิง



         Frankincense : เป็นยางไม้หอมจากต้นไม้จำพวก Boswellia เจ้าต้น Boswellia เป็นต้นไม้ขนาดเล็ก ที่เจริญเติบโตทางตอนใต้ของ Arabia และ Somalia ซึ่งยางไม้ชนิดนี้ เป็นส่วนสำคัญมาก ในการทำเครื่องหอม สมัยอาณาจักรโรมันโบราณ ในปัจจุบันเราใช้Frankincense เป็นส่วนผสมของ น้ำหอมสมัยใหม่ถึง 13%



         Galbanum : เป็นยางไม้ของ ต้นยี่หร่า จากประเทศ Iran เจ้า Galbanum จะมีกลิ่นหอม ออกไปทาง Spicy ;



         Jasmine : ต้นมะลิใช้เป็นส่วนผสมหลัก ของน้ำหอมในปัจจุบันมากกว่า 80 % เป็นรองก็แค่ดอกกุหลาบ พันธุ์ของมะลิที่นิยมใช้ในการทำน้ำหอมก็คือ มะลิจากประเทศสเปน หรือที่เรียกกันว่า Royal Jasmine ซึ่งใช้มากที่สุดในยุโรป มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 แล้ว Royal Jasmine นี้จะเป็น ส่วนผสม ในการทำน้ำหอม ที่แพงที่สุด เพราะว่า จากมะลิ 500 ปอนด์ จะกลั่นออกมาใช้ทำน้ำหอม ได้แค่เพียง 0.1 % เท่านั้น



         Labdanum : เป็นหยดเล็กๆ ของยางไม้จากใบของต้น Cistus ที่ขึ้นอยู่ ในตะวันออกกลาง เราใช้ยางไม้ชนิดนี้ถึง 33% ในการทำน้ำหอมในปัจจุบัน



         Lavender : เป็นส่วนผสมหลัก ในการทำน้ำหอมมานานแล้ว นับตั้งแต่สมัย กรีก - โรมัน โบราณ ครั้งหนึ่งในประเทศ ฝรั่งเศส เคยปลูกต้น Lavender นี้ถึง 5,000 ตัน ต่อปีมาแล้ว



         Lemon : ผิวของผลมะนาว เป็นส่วนผสมที่จำเป็น ในการทำน้ำหอม ที่ต้องการให้ได้กลิ่นหอม ที่สดชื่น สดใส มีชีวิตชีวา



         Lily of the Valley : ในช่วงเริ่มแรกของการทำน้ำหอมนั้น เราได้กลิ่นหอมของดอก Lily โดยการใส่ดอก lily ลงไปในน้ำมัน แต่ในปัจจุบัน  เราใช้กรรมวิธีที่ทันสมัย  โดยการสกัดเอากลิ่นหอมของ lily ออกมา เราใช้ lily เป็นส่วนผสมในการทำน้ำหอม   ประมาณ 14 % ในปัจจุบัน



     Myrrh : เป็นยางไม้จากต้น Myrrh ซึ่งพบได้ใน Arabia, Somalia และ Ethiopia ในสมัยโบราณ เขาใช้ยางไม้ชนิดนี้ทำเป็นยาสมุนไพร และ ใช้ทำ นํ้ายาดองศพ แต่ในปัจจุบันนักปรุงน้ำหอมบอกว่า คุณสมบัติที่เด่นของ Myrrh นี้คือ มันเป็นตัวช่วยให้ กลิ่นของน้ำหอม ติดร่างกายทนนานยิ่งขึ้น เพราะมันมีสารที่ทำให้ น้ำหอม ระเหยไปในอากาศ ช้าลงนั่นเอง



     Neroli : ได้จากการกลั่น จากดอกของต้นส้ม ชื่อ Neroli นี้ได้มาจากในช่วง หลังศตวรรษที่ 16 โดยภรรยาของ เจ้าชายของ อิตาลีคนหนึ่ง ใช้ Neroli ผสมในนํ้า ที่เธออาบ ทำให้กลิ่นหอม นี้เริ่มเป็นที่แพร่หลายในยุโรป แต่จริงๆแล้ว Neroli เข้ามาในยุโรปนานแล้ว ตั้งแต่ศตรวรรษที่ 12 โดยชาวอาหรับเป็นผู้นำเข้ามา ในปัจจุบันใช้เป็นส่วนผสมในการทำน้ำหอมถึง 12%



     Oak Moss : เป็น Lichen ที่อยู่ตาม ต้นโอ๊ก ต้นสน และต้นไม้อื่นๆ ในแถบเถือกเขา ทางเหนือ ของแอฟริกา และ ยุโรป เราใช้ oak moss เป็นตัวที่ยึด กลิ่นหอมของน้ำหอมไว้ ไม่ให้ระเหยไปเร็ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น